สอบป้องกันดูษฎีนิพันธ์ (Dissertation Examination)
ในการสอบป้องกันดุษฎีนิพนธ์ นักศึกษาจะต้องผ่านสัมมนา ครั้งที่ 2 เรียบร้อยแล้ว โดยมีเนื้อหานำเสนอดังต่อไปนี้
บทคัดย่อภาษาไทย
บทคัดย่อภาษาอังกฤษ
คำนำ/กิตติกรรมประกาศ
สารบัญเนื้อหา
สารบัญตาราง
สารบัญภาพ (ถ้ามี)
บทที่ 1 บทนำ
โดยทั่วไปประกอบด้วยหัวข้อย่อย คือ
1. ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
2. วัตถุประสงค์การวิจัย
3. สมมติฐานการวิจัย (ถ้ามี)
4. ขอบเขตการวิจัย ประกอบด้วย
- การใช้กลุ่มประชากรเป้าหมายเพียงบางส่วน
- ตัวแปรที่ผู้วิจัยเลือกมาศึกษา ในกรณีที่ยังมีตัวแปรอื่นเกี่ยวข้องจำนวนมาก และผู้วิจัยไม่สามารถศึกษาในคราวเดียวกัน
- วิธีการวิจัยในกรณีที่สามารถศึกษาด้วยวิธีการอื่นที่น่าสนใจ แต่เลือกศึกษาเพียงวิธีเดียว
- ขอบเขตของพื้นที่ทำการวิจัย
5. นิยามศัพท์ (Definition of Terms) เป็นการบอกความหมายของศัพท์ที่ใช้ในการวิจัยแต่ละครั้ง เพื่อให้ผู้อ่านสื่อความหมายตรงกับผู้วิจัย
6. ข้อจำกัดในการวิจัย หัวข้อใช้เขียนเมื่อผู้วิจัยควบคุมสถานการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างการวิจัยไม่ได้
7. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากงานวิจัย ซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์
บทที่ 2 การทบทวนเอกสารที่เกี่ยวข้อง
เป็นการแสดงรายละเอียดของการค้นคว้าเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เนื้อหาในบทนี้จะต้องแสดงถึงความเข้าใจของผู้วิจัยในเรื่องที่ต้องทำวิจัยเป็นอย่างดี
แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 เป็นการนำเสนอผลการค้นคว้าที่เกี่ยวข้องกับตัวแปรที่ใช้ในการวิจัย โดยแบ่งเป็น
1. ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องและสนับสนุน
2. แนวคิดที่เกี่ยวข้องและสนับสนุน
3. ผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
จากเอกสารแต่ละชิ้นควรสรุปถึงประเด็นที่น่าสนใจ และในท้ายที่สุดควรมีการแสดงกรอบแนวคิดในการวิจัย ซึ่งเป็นเป็นที่ผลที่ได้จาการค้นคว้าเอกสาร
ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
ในการวิจัยบางชิ้นต้องมีการทบทวนเอกสารนอกเหนือจากส่วนที่ 1 นี้ โดยจะมีส่วนที่ 2 และส่วนที่ 3 เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ในรายงานการวิจัยและทำให้
ผู้อ่านเกิดความเข้าใจอย่างต่อเนื่อง
ส่วนที่ 2 เป็นการนำเสนอผลการค้นคว้าเกี่ยวกับวิธีสร้างเครื่องมือวัดตัวแปรชุดหนึ่งเรียกว่า "ตัวแปรคุณลักษณะหรือตัวแปรแฝง" (Latent trait) ได้แก่
เจตคติ ความเชื่อ ค่านิยม เป็นต้น จะมีแนวคิดและทฤษฎีที่สนับสนุนค่อนข้างหลากหลาย และมีวิธีการสร้างที่ค่อนข้างซับซ้อน จำเป็นที่ผู้วิจัย
จะต้องเลือกใช้ให้เหมาะสมในการวิจัยแต่ละกรณี
ส่วนที่ 3 เป็นการนำเสนอผลการค้นคว้าเกี่ยวกับสถิติขั้นสูงที่ใช้ในการวิจัยในบางกรมีผู้วิจัยจำเป็นต้องใช้สติขั้นสูงมาวิเคราะห์ข้อมูล จึงนำเสนอแนวคิด
ของสถิตินั้นอย่างคร่าวๆ เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจแนวคิดเท่านั้น พร้อมตัวอย่างวิจัยที่ใช้ในการวิเคราะห์ทำให้ผู้อ่านทราบถึงความเหมาะสมของสถิติ
ที่ใช้และยังช่วยแสดงให้เห็นถึงคุณภาพของเทคนิควิธีทางสถิตินั้น ๆ
ส่วนในกรณีการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ควรระบุแนวคิดในการวิเคราะห์พร้อมอ้างอิงที่ชัดเจนเช่นเดียวกัน
บทที่ 3 ระเบียบวิธีการวิจัย
เป็นการแสดงขั้นตอนและรายละเอียดการดำเนินการวิจัย ประกอบด้วย
1. ประชากรที่ศึกษา เป็นการระบุกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการแสดงรายละเอียดเหมาะสมกับประเด็นปัญหาที่ต้องการวิจัย
2. กลุ่มตัวอย่างและกลุ่มสุ่มตัวอย่าง ผู้วิจัยควรอธิบายการเลือกใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างในการวิจัยของตนว่า เหตุใดจึงใช้วิธีนั้น การกำหนดขนาดของกลุ่ม
ตัวอย่างที่เหมาะสมตามทฤษฎีและเหมาะสมกับการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ โดยบรรยายขั้นตอนของการสุ่มตัวอย่าง และขนาดกลุ่มตัวอย่างที่กำหนด
อย่างชัดเจน นอกจากนี้ควรนำเสนอผลการเก็บรวบรวมข้อมูลจากการสุ่มตัวอย่างว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดหรือไม่ ระบุระดับความคลาดเคลื่อน
ที่เกิดขึ้น
3. ตัวแปรที่ศึกษา
4. วิธีการสร้างเครื่องมือเป็นการระบุเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล และวิธีการสร้างเครื่องมือในส่วนนี้จะมีรายละเอียดเกี่ยวกับ
4.1 นิยามเชิงทฤษฎี (Conceptual definition) ของตัวแปร
4.2 นิยามเชิงปฏิบัติการ (Operational definition) ของตัวแปร
4.3 ตารางแสดงบ่งชี้หรือพฤติกรรมบ่งชี้ในแต่ละประเด็นของตัวแปรว่าเป็น Single indicator หรือ Composite indicator
4.4 รูปแบบของคำถามที่ใช้ ควรระบุให้ชัดเจนว่าเป็นประเภทใด ตามแนวคิดของผู้ใด
4.5 ตัวอย่างข้อคำถามที่ได้ พร้อมแบบสอบถามฉบับสมบูรณ์ไว้ในภาคผนวกในกรณีที่เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพที่เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการสังเกตและ
สัมภาษณ์ให้แสดงโครงสร้างของการสังเกตและการสัมภาษณ์ พร้อมรายละเอียดของผลการสังเกต/สัมภาษณ์ไว้ในภาคผนวก
5. การบรรยายขั้นตอนในการดำเนินการพร้อมแผนภูมิ การบรรยายรายละเอียดในส่วนนี้จะช่วยแสดงให้เห็นถึงความเป็นเหตุเป็นผลในการดำเนินการวิจัย
แต่ละขั้นตอน
6. การตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือทั้งความเที่ยง (Reliability) และความตรง (Validity) โดยแสดงเหตุผลประกอบการเลือกใช้เทคนิคต่าง ๆ แสดงขั้นตอน
ของการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือว่านำไปใช้กับใครและผลเป็นอย่างไร มีการแก้ไขปรับปรุงหรือไม่ พร้อมแสดงผลการคำนวณอย่างชัดเจน
7. วิธีการวิเคราะห์ข้อมูล เป็นการบอกกล่าวถึงการวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมมาได้ วิธีการคิด วิเคราะห์ข้อมูลที่เหมาะสมกับข้อมูล ในขณะเดียวกันจะต้อง
สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ และสมมติฐานซึ่งเป็นวิธีการที่ใช้จริงในการวิจัย
8. นำเสนอความเหมาะสมของข้อมูลกับเทคนิคทางสถิติที่เลือกใช้ มีการตรวจสอบว่าข้อมูลเป็นไป ตามสมมติฐานของสถิติตัวนั้นหรือไม่ ในกรณีที่เป็นการ
วิเคราะห์เชิงปริมาณต้องระบุแนวคิดในการวิเคราะห์อย่างชัดเจน
บทที่ 4 ผลของการวิเคราะห์ข้อมูล
การนำเสนอจะมีการจัดลำดับของการนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล ประกอบด้วย
1. แสดงตารางที่อธิบายถึงลักษณะเบื้องต้นของกลุ่มตัวอย่างที่ได้ เช่น ตารางแสดงเพศ อายุ การศึกษาเพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพคร่าว ๆ ของกลุ่มตัวอย่าง
2. แสดงลักษณะของตัวแปรต่าง ๆ ในกลุ่มตัวอย่างที่เก็บรวบรวมมาได้
3. แสดงตารางผลการวิเคราะห์ข้อมูลตามลำดับของสมมติฐานการวิจัยที่ตั้งไว้
4. แสดงการเชื่อมโยงข้อค้นพบ
บทที่ 5 สรุปและอภิปรายผลการวิจัย
ประกอบด้วยส่วนสำคัญ 4 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 เป็นการสรุปผลการวิจัย เป็นการสรุปผลการวิเคราะห์ข้อมูลในบทที่ 4 โดยเขียนสรุป ตามลำดับของวัตถุประสงค์และสมมติฐานการวิจัย
ส่วนที่ 2 เป็นเป็นอภิปรายผลการวิจัย หมายถึง การตีความและประเมินข้อค้นพบที่ได้จากการวิจัย เพื่ออธิบายยืนยันความสอดคล้องหรือความแตกต่างระหว่าง
ข้อค้นพบและสมมติฐานการวิจัยอธิบายถึงข้อค้นพบดังกล่าวว่าสนับสนุนพฤษฎีที่เกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร
ส่วนที่ 3 เป็นการเสนอแนวทางในการนำผลการวิจัยไปใช้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ที่ได้จากงานวิจัยตามเจตนาที่กำหนดไว้ในบทที่ 1
ส่วนที่ 4 เป็นการเขียนข้อเสนอแนะ
1. จะต้องเป็นสาระที่เกิดขึ้นจากผลการวิจัย มิใช่ข้อคิดเห็นหรือจากสามัญสำนึกใด ๆ ของผู้วิจัย จะต้องใช้ข้อมูลจากการวิจัยเป็นพื้นฐานในการเขียน
2. จะต้องเป็นเรื่องใหม่ ไม่ใช่เรื่องที่รู้จักอยู่ทั่วไป
3. ข้อเสนอแนะนั้นจะต้องปฏิบัติได้ภายใต้ขอบเขต หรือเรือนไขที่กำหนดไว้ เช่น ขอบเขตของความสามารถของบุคคล ของเงินงบประมาณและของเวลา
4. ข้อเสนอแนะนั้นต้องมีความต่อเนื่องกับงานวิจัย
บรรณานุกรม
ภาคผนวก
1. เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล (แบบสอบถาม แบบสังเกต แบบสัมภาษณ์) ฉบับสมบูรณ์
2. ข้อมูลจากการสังเกต/การสัมภาษณ์อย่างละเอียด ควรนำเสนอเป็นของแต่ละบุคคล
3. รายละเอียดอื่น ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงคุณภาพและความชัดเจนของงานวิจัย
ประวัตินักศึกษา
ขั้นตอนการจองสอบป้องกันดุษฎีนิพนธ์ นักศึกษาต้องยื่นเอกสารดังต่อไปนี้